ต้นแก้วเจ้าจอม ทำความรู้จักกับพืชแห่งความงามและกลิ่นหอม

ต้นแก้วเจ้าจอม

ต้นแก้วเจ้าจอม (ชื่อวิทยาศาสตร์ Jasminum sambac) เป็นพืชที่มีความสำคัญในด้านวัฒนธรรมและการใช้งานทางการเกษตรในหลายประเทศ รวมถึงในประเทศไทย ด้วยความสวยงามและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ต้นแก้วเจ้าจอมจึงได้รับความชื่นชอบในการปลูก ในสวนและการใช้ประโยชน์ต่าง ๆ ทั้งในด้านการประดับตกแต่ง และการผลิตน้ำมันหอมระเหย

ความหมายและที่มาของชื่อ

แก้วเจ้าจอม เป็นชื่อที่เรียกกันในภาษาไทย โดยมีความหมายว่า ดอกไม้ที่มีความสวยงามและหอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นหอม ซึ่งสื่อถึงความรักและความจงรักภักดี แก้วเจ้าจอม เป็นพืชในตระกูล Oleaceae (ตระกูลเดียวกับพวกมะลิและจาด) โดย “Sambac” หมายถึงพืชที่มีกลิ่นหอมรุนแรง

ในบางพื้นที่ของประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้นแก้วเจ้าจอม ยังถูกใช้ในพิธีการสำคัญต่าง ๆ เช่น นำไปไหว้พระ ทำบุญ หรือในเทศกาลที่เกี่ยวข้องกับความรักและความศรัทธาในด้านต่างๆ 

ในบางกรณี ต้นแก้วเจ้าจอมยังถูกใช้เป็นพืชประจำบ้านที่ช่วยสร้างความสุขและความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ผู้อยู่อาศัย

ดอกแก้วเจ้าจอม
ขอบคุณ ภาพจาก bloggang

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของ ต้นแก้วเจ้าจอม

แก้วเจ้าจอม เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กถึงกลางที่มีลักษณะเฉพาะตัว ดังนี้

ลักษณะลำต้นและกิ่งก้าน

ลำต้นจะมีความสูงตั้งแต่ 1-2 เมตร ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการดูแลรักษา กิ่งก้านจะมีลักษณะเรียวยาวและแตกกิ่งได้ดี ทำให้แก้วเจ้าจอมมีทรงพุ่มที่สวยงาม

ลักษณะใบ

ใบของ แก้วเจ้าจอม เป็นใบเดี่ยว มีลักษณะเป็นรูปรีหรือรูปใบหอก ขอบใบเรียบและมีสีเขียวเข้ม ใบมักจะมีความมันวาวเล็กน้อย และขนาดของใบอยู่ในขนาดกลางถึงเล็ก

ลักษณะดอก

ดอกของ แก้วเจ้าจอม มีลักษณะเป็นดอกเดี่ยวหรือดอกช่อ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ แต่โดยส่วนใหญ่จะพบดอกเดี่ยวที่มี สีขาว บางครั้งอาจพบสีอื่น ๆอย่าง สีชมพู ดอกจะมีกลิ่นหอมแรง ซึ่งเป็น เอกลักษณ์ ที่ทำให้แก้วเจ้าจอม เป็นที่ชื่นชอบอย่างมาก ดอกจะบานในช่วงเช้าและเย็น โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ดอกที่บานจะมีลักษณะกลีบดอกที่เรียงตัวสวยงามและมีกลิ่นหอมยวนใจ

ลักษณะผล

ผลของ แก้วเจ้าจอม จะมีลักษณะเป็น ผลรูปทรงกลมหรือรี ขนาดเล็ก และสีเขียว ซึ่งเมื่อสุกจะกลายเป็นสีดำ ผลมักจะไม่ถูกนำมาใช้ในการขยายพันธุ์ เนื่องจากการขยายพันธุ์จะทำผ่านการตอนกิ่งหรือการเพาะเมล็ด

วิธีการปลูก ต้นแก้วเจ้าจอม

แก้วเจ้าจอม เป็นพืชที่ปลูกง่ายและเจริญเติบโตได้ดี ในหลายสภาพแวดล้อม แต่เพื่อให้ได้ผลดีในการเจริญเติบโตและการออกดอก ควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ  ดังนี้

สถานที่และสภาพแวดล้อม

แก้วเจ้าจอม จะเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่ได้รับแสงแดดเต็มที่ หรือบางทีก็สามารถปลูกในที่ร่มได้ แต่จะไม่ให้ดอกมากเท่ากับต้นที่ได้รับแสงแดดเต็มที่ พืชชนิดนี้ต้องการดินที่มีการระบายน้ำดี ดินที่มีความเป็นกรดอ่อน ๆ หรือดินที่มีความอุดมสมบูรณ์

การเตรียมดิน

การปลูก แก้วเจ้าจอม สามารถทำได้ทั้งในดินปลูกธรรมชาติหรือในกระถาง การเตรียมดินควรจะผสมด้วยปุ๋ยหมัก หรือดินร่วนซุย เพื่อให้ดินมีการระบายน้ำดี นอกจากนี้ การใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักจะช่วยเสริมให้ดินมีสารอาหารที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตอีกด้วย

การขยายพันธุ์

การขยายพันธุ์ แก้วเจ้าจอมสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การตอนกิ่งหรือการปักชำ โดยการตอนกิ่งจะช่วยให้ได้ต้นที่มีรากแข็งแรงและเติบโตเร็ว ส่วนการปักชำนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่อย่างจำกัด

การให้น้ำ

แก้วเจ้าจอม ชอบน้ำ แต่ไม่ทนทานต่อน้ำขัง ควรให้น้ำในปริมาณที่เหมาะสมและไม่ควรให้ดินแฉะเกินไป โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ต้องมั่นดูแลอย่างดี

ต้นแก้วเจ้าจอม
ขอบคุณ ภาพจาก kasettoday

การดูแลรักษา แก้วเจ้าจอม

แก้วเจ้าจอม เป็นพืชที่ดูแลรักษาง่ายและไม่ต้องการการดูแลที่ซับซ้อน แต่การดูแลที่ดีจะช่วยให้ต้นไม้เติบโตแข็งแรงและออกดอกได้ดี

การตัดแต่งกิ่ง

การตัดแต่งกิ่ง จะช่วยให้ต้นไม้มีรูปร่างที่สวยงาม และส่งเสริมการเจริญเติบโตของกิ่งใหม่ที่มักจะให้ดอกมากขึ้น ควรตัดกิ่งที่แห้งหรือหักออกไป และควรทำในช่วงต้นฤดูฝนหรือช่วงที่ต้นไม้หยุดการเจริญเติบโต

การใส่ปุ๋ย

แก้วเจ้าจอมจะเจริญเติบโตได้ดี เมื่อได้รับปุ๋ยที่มีสารอาหารครบถ้วน ควรใส่ปุ๋ยในช่วงฤดูฝนและฤดูร้อน โดยสามารถใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยสูตร 15-15-15 ซึ่งจะช่วยทำให้ แก้วเจ้าจอม มีการเจริญเติบโตของใบและการออกดอก

การป้องกันโรคและแมลง

แก้วเจ้าจอม อาจมีปัญหาจากโรคและแมลงบางประเภท เช่น โรคราน้ำค้างหรือแมลงปีกแข็ง ควรหมั่นตรวจสอบต้นไม้และใช้สารป้องกันเชื้อราหรือยากำจัดแมลงเมื่อต้องการ

การใช้งานและความสำคัญ

แก้วเจ้าจอม ไม่ได้มีแค่ความสวยงามและกลิ่นหอมเท่านั้น ยังมีประโยชน์ในหลายด้าน ดังนี้

การใช้งานทางวัฒนธรรม

ในประเทศไทย แก้วเจ้าจอม มีความสำคัญในด้านการประดับตกแต่งบ้าน และการใช้ในพิธีต่าง ๆ โดยเฉพาะในพิธีแต่งงานและนำไปไหว้พระ แก้วเจ้าจอม ถือเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความบริสุทธิ์

การผลิตน้ำมันหอมระเหย

ดอกของ แก้วเจ้าจอม สามารถนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย ซึ่งมีคุณสมบัติในการ บำรุงผิวพรรณ และ ลดความเครียด น้ำมันหอมระเหยจาก แก้วเจ้าจอมมักใช้ในอุตสาหกรรมความงามและการแพทย์แผนโบราณ

การใช้ในอุตสาหกรรม

แก้วเจ้าจอม ยังสามารถใช้ในการผลิตเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ และทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย

สามารถหาไอเดียแต่งสวนได้ง่ายๆ ในสวน ที่จะให้คุณได้เสริมสร้างไอเดียไปกับเรา!!!

แก้วเจ้าจอม
ขอบคุณ ภาพจาก kasettoday

สรุปบทความ

ต้นแก้วเจ้าจอม เป็นพืชที่มีทั้งความสวยงามและมีประโยชน์หลากหลาย การปลูกและดูแล แก้วเจ้าจอมไม่ซับซ้อนและสามารถทำได้ง่ายในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม หากได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง แก้วเจ้าจอม จะสามารถเติบโตและออกดอกได้ดี พร้อมทั้งมีกลิ่นหอมที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับบ้านและสวน

Scroll to Top